ปลูกกระเทียม ไว้กินเอง ในรั้วบ้าน อย่างง่าย

ปลูกกระเทียม ไว้กินเอง ในรั้วบ้าน อย่างง่าย

ปลูกกระเทียม

ปลูกกระเทียม





กระเทียม (Garlic) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Allium sativum อยู่ในวงศ์ Alliaceae เป็นพืชล้มลุกมีหัวอยู่ใต้ดิน รากไม่ยาวนัก ใบมีลักษณะยาวแบน ปลายใบแหลมโคนต้นมีใบหุ้มซ้อนกัน ออกดอกเป็นช่อสีขาว หัวกระเทียมมีกลิ่นหอมฉุน รสชาติเผ็ตร้อน นิยมใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารไทยแทบทุกชนิด และยังมีสรรพคุณช่วยลดไขมันในเลือด ลดความดันโลหิต มีสารออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระเพิ่มภูมิต้านทานโรค และช่วยให้การย่อยอาหารดีขึ้นด้วยกระเทียมเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญที่สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร

ฤดูกาลปลูก

กระเทียม สามารถปลูกได้เกือบทุกภาคของประเทศชอบดินร่วนระบายน้ำได้ดี และสภาพภูมิอากาศค่อนข้างหนาวเย็น จึงเหมาะที่จะปลูกในช่วงฤดูหนาว ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม ถึงเดือนธันวาคม และเก็บเกี่ยวในช่วงเตือนมกราคมถึงเดือนเมษายน แหล่งปลูกที่สำคัญอยู่ทางภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง การปลูกกระทียม แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ

  • ช่วงที่ 1 ปลูกช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤศจิกายนและเก็บเกี่ยวเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ เรียกว่า “กระเทียมดอ” หัวฝอง่ายเก็บได้ไม่นาน นิยมใช้ทำกระเทียมดอง
  • ช่วงที่ 2 ปลูกช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคม(หลังเก็บเกี่ยวข้าว) และเก็บเกี่ยวเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน เรียกว่า “กระเทียมปี” หัวคุณภาพดีเก็บได้นาน นิยมใช้ทำกระเทียมแห้ง โดยทางภาคเหนือนิยมปลูกทั้งสองช่วงส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือนิยมปลูกช่วงที่ 2

การเตรียมพันธุ์

เนื่องจากพันธุ์กระเทียมมักจะมีราคาแพงในช่วงฤดูกาลปลูก ดังนั้นเกษตรกรที่ปลูกกระเทียมเป็นอาชีพควรจะเก็บกระเทียมไว้ส่วนหนึ่งเพื่อใช้ทำพันธุ์ปลูกในปีต่อไป กระเทียมที่ใช้ทำพันธุ์ต้องแก่จัดและแห้งสนิท เลือกลักษณะที่หัวโต แน่น ไม่ฝ่อไม่มีโรคและแมลง โดยใช้หัวกระเทียมอัตรา 150 – 200 กิโลกรัมต่อไร่ หรือ 60 – 80 กิโลกรัมต่อไร่ สำหรับกระเทียมที่แกะกลีบแล้ว

การเตรียมดิน

กระเทียมชอบดินร่วนซุย ระบายน้ำดี และเป็นกรดอ่อนๆ โดยทั่วไปการเตรียมดินมี 2 แบบ ตามลักษณะการปลูก ดังนี้

  • การปลูกแบบยกแปลง การเตรียมดินแบบนี้มักนิยมใช้ในพื้นที่ที่การระบายน้ำไม่ดี โดยใช้แรงคนขุดหรือใช้เครื่องทุ่นแรงไถพรวนแล้วจึงยกแปลงโดยมีร่องน้ำอยู่ข้างแปลง ขนาดแปลงปลูกกว้าง 1 – 2.5 เมตร ระยะระหว่างแปลง 50 เซนติเมตร
  • การปลูกแบบไม่ยกแปลง เป็นการเตรียมดินทั้งผืนปลูกให้เต็มพื้นที่ วิธีนี้มักใช้กับดินร่วน หรือดินร่วนปนทรายที่มีการระบายน้ำดี

ควรใส่ปุ๋ยคอกที่แห้งดีแล้ว หรือปุยหมัก อัตราไร่ละ 1,600 กิโลกรัม เพื่อปรับปรุงสภาพดิน และช่วยให้กระเทียมงอกและแตกกอดีขึ้น

การปลูก

นิยมปลูกด้วยกลีบนอก เพราะจะให้ผลผลิตสูงและหัวขนาดใหญ่ ก่อนปลูกควรรดน้ำให้ดินชื้นแล้วจิ้มกลีบกระเทียมลงดินให้ลึกประมาณ 2 ใน 3 ส่วนของกลีบ ระยะปลูกที่เหมาะสมคือ 10 x 10 – 15 เซนติเมตร หากเป็นพันธุ์จีนใช้ระยะปลูก 12 x 12 เซนติเมตร หลังปลูกใช้ฟางคลุมแปลง เพื่อควบคุมวัชพืช รักษาความชื้นของดิน และลดความร้อนของแปลงปลูก

การดูแลรักษา

การให้น้ำ

ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยให้ครั้งแรกหลังปลูกเสร็จ และให้ครั้งที่สองประมาณ 2 สัปดาห์นับจากครั้งแรก จากนั้นให้ 7 – 10 วันต่อครั้ง หากสังเกตเห็นใบกระเทียมเริ่มเหี่ยวต้องรีบให้น้ำทันที และงดให้น้ำก่อนเก็บเกี่ยวประมาณ 2 สัปดาห์

การให้ปุ๋ย

ให้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ 13-13-21 อัตรา 50 – 100 กิโลกรัมต่อไร่ ตามความอุดมสมบูรณ์ของดิน โดยแบ่งใส่ 2 ครั้ง ครั้งแรกใส่หลังจากปลูกเสร็จ และครั้งที่สองใส่เมื่ออายุประมาณ 60 วัน และควรให้ปุ๋ยยูเรียเพื่อเร่งการเจริญเติบโต หลังปลูกแล้วประมาณ 2 สัปดาห์

การกำจัดวัชพืช

การเตรียมดินที่ดีและการใช้ฟางคลุมแปลงจะทำให้วัชพืชมีโอกาสขึ้นได้น้อย แต่หากมีวัชพืชขึ้นควรกำจัดโดยการถอน ตั้งแต่ระยะที่วัชพืชยังไม่โตเพราะจะถอนง่าย และไม่กระทบกระเทือนรากของกระเทียมมาก

การเก็บเกี่ยว

ควรเก็บเกี่ยวกระเทียมในระยะที่แก่จัด อายุประมาณ 100 – 120 วัน ลักษณะคือ ใบแห้งตั้งแต่ปลายใบลงมามากกว่า 30 % ต้นกระเทียมเอนล้มนอนไปกับพื้นดิน 25 %  ขึ้นไป จะได้กระเทียมที่มีหัวแกร่ง เก็บได้นาน

วิธีเก็บเกี่ยว

ให้ถอนต้นและวางผึ่งไว้ในแปลงโดยวางสลับให้ใบคลุมหัว ป้องกันไม่ให้ถูกแสงแดดโดยตรง ประมาณ 2 – 3 วัน ระวังอย่าให้ถูกฝน และน้ำค้างในเวลากลางคืน แล้วนำมาผึ่งลมในที่ร่มประมาณ 5 – 7 วัน ให้หัวและใบแห้งดี จากนั้นนำมาคัดขนาดและมัดจุกแล้วนำไปแขวนไว้ในโรงเรือนเปิด หรือใต้ถุนบ้านที่มีการถ่ายเทอากาศดีประมาณ 3 – 4 สัปดาห์ ให้กระเทียมแห้งสนิท แล้วจึงนำไปเก็บรักษาหรือจำหน่ายต่อไป

โรคที่สำคัญ

  • โรคแอนแทรกโนส ลักษณะอาการ ใบมีแผลจุดสีเขียวหม่น ขยายกว้างเป็นวงกลม เนื้อเยื่อบริเวณแผลยุบตัวลง มีจุดสีดำเล็กๆ เรียงซ้อนเป็นวงอยู่ในบริเวณแผล ถ้าโรคเกิดรุนแรงแผลจะขยายมาชนกันเป็นแผลใหญ่ ทำให้ใบหักพับลงและแห้งตาย ป้องกันกำจัดโดย ก่อนปลูกควรไถพรวนตากดินและปรับปรุงดินด้วยปูนขาว แช่ต้นกล้าหรือหัวพันธุ์ในสารป้องกันกำจัดโรคพืช เช่น โพรคลอราช อย่าปล่อยให้น้ำขังในแปลง เก็บส่วนที่เป็นโรคไปทำลายให้ห่างจากแปลงปลูก และปลูกพืชชนิดอื่นหมุนเวียน เพื่อลดการระบาด
  • โรคใบจุดสีม่วง ลักษณะอาการ ใบเป็นแผลรูปร่างคล้ายกระสวยสีม่วงซีดๆ แผลขยายตัวรูปวงรีตามความยาวใบ ทำให้ใบหักพับและแห้งตาย สาเหตุเกิดจากเชื้อรา ป้องกันกำจัดโดย เลือกพันธุ์ปลูกที่ปราศจากโรคดูแลแปลงปลูกให้สะอาด เก็บส่วนที่เป็นโรคไปทำลายและควรปลูกพืชอื่นหมุนเวียนเพื่อตัดวงจรโรค

แมลงศัตรูที่สำคัญ

  • ไรขาวหรือไรหอมกระเทียม ดูดกินน้ำเลี้ยงตามใบพืชทั้งอ่อนและแก่ทำให้ใบยอดพันกัน ป้องกันกำจัดโดย คลุกกลีบกระเทียมด้วยกำมะถันผงก่อนปลูกและหมั่นตรวจดูแปลง หากพบว่ากระเทียมแสดงอาการดังกล่าวให้รีบถอนทิ้ง
  • เพลี้ยไฟหอม ดูดกินน้ำเลี้ยงที่ใบ ทำให้เป็นจุด สีขาวซีด บางครั้งใบซีดขาวและเหี่ยวแห้ง ป้องกันกำจัดโดยบำรุงต้นกระเทียมให้แข็งแรง และใช้กับดักกาวเหนียวเพื่อช่วยลดการระบาด

ที่มา : กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ , withikaset.com




บทความอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

เกษตรแปลงจิ๋ว 1 ไร่ เริ่มต้นใหม่ได้ 8 เดือน พื้นที่น้อยเน้นคุณภาพ!!

เกษตรแปลงจิ๋ว 1 ไร่ เริ่มต้นใหม่ได้ 8 เดือน พื้นที่น้อยเน้นคุณภาพ!!


เกษตรแปลงจิ๋ว คือ การทำเกษตรบนพื้นที่จำกัด โดยใช้ประโยชน์จากพื้นที่ว่างรอบบ้าน ระเบียง ดาดฟ้า หรือแม้แต่ในกระถาง โดยใช้หลักวิชาการทางการเกษตรอย่างถูกต้อง เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและปลอดภัย

เกษตรแปลงจิ๋วเป็นแนวคิดที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากผู้คนอาศัยอยู่ในเมืองมากขึ้น มีพื้นที่ทำการเกษตรน้อยลง ประกอบกับปัญหาสิ่งแวดล้อมและอาหารปลอดภัยที่ทวีความรุนแรงขึ้น เกษตรแปลงจิ๋วจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้

ประโยชน์ของการทำเกษตรแปลงจิ๋ว

       ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้ออาหารและเพิ่มความมั่นคงทางอาหาร อีกทั้งยังช่วยลดมลพิษและสิ่งแวดล้อมเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมืองและส่งเสริมให้ผู้คนหันมาสนใจเรื่องเกษตรกรรมและสิ่งแวดล้อม

หลักการทำเกษตรแปลงจิ๋ว

  • เลือกพื้นที่ที่เหมาะสมกับการปลูกพืชหรือเลี้ยงสัตว์
  • เตรียมดินให้เหมาะสมกับพืชหรือสัตว์ที่จะปลูกเลี้ยง
  • เลือกพันธุ์พืชหรือสัตว์ที่เหมาะสมกับพื้นที่และสภาพอากาศ
  • ดูแลรักษาพืชหรือสัตว์อย่างถูกต้อง

ตัวอย่างการทำเกษตรแปลงจิ๋ว

  • การปลูกผักสวนครัว เช่น คะน้า ผักบุ้ง แตงกวา มะเขือเทศ โหระพา
  • การปลูกดอกไม้ เช่น ดาวเรือง บานชื่น เยอบีร่า
  • การปลูกไม้ประดับ เช่น ต้นกระบองเพชร ต้นเฟิร์น ต้นหมากเหลือง
  • การเพาะเห็ด เช่น เห็ดนางฟ้า เห็ดหอม เห็ดนางรม
  • การเลี้ยงปลา เช่น ปลานิล ปลาทับทิม ปลาดุก
  • การเลี้ยงไก่ไข่ ไก่เนื้อ

เกษตรแปลงจิ๋วเป็นแนวทางการทำเกษตรที่สามารถทำได้ง่าย เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย ที่ต้องการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับบ้าน ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้ออาหาร และสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับตนเองและครอบครัว

ที่มา : Youtrube ชาวสวน ยุคใหม่




บทความอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

เกษตรผสมผสาน แค่ 1 ไร่ สร้างรายได้ปีละ 2 แสน | เกษตรสัญจร

เกษตรผสมผสาน แค่ 1 ไร่ สร้างรายได้ปีละ 2 แสน | เกษตรสัญจร





เกษตรผสมผสาน คือ การทำการเกษตรที่ปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์หลายชนิดในพื้นที่เดียวกัน โดยกิจกรรมแต่ละชนิดจะเกื้อกูลกันอย่างเป็นวงจร เช่น อาหาร แร่ธาตุ อากาศ พลังงาน เป็นต้น เกษตรผสมผสานเป็นแนวทางหรือหลักในการบริหารจัดการที่ดินและน้ำ เพื่อการเกษตรในที่ดินขนาดเล็ก ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยหลักเศรษฐกิจพอเพียง

ประโยชน์ของการทำเกษตรผสมผสาน

  • เพิ่มผลผลิตทางการเกษตร โดยการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
  • ลดต้นทุนการผลิต โดยลดการใช้ปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลง
  • เพิ่มรายได้ ลดความเสี่ยง และเกิดความยั่งยืนทางการเกษตร
  • รักษาสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ

รูปแบบของการทำเกษตรผสมผสาน

การทำเกษตรผสมผสานสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และความต้องการของเกษตรกร โดยรูปแบบที่นิยมมีดังนี้

  • เกษตรทฤษฎีใหม่ เป็นรูปแบบเกษตรผสมผสานที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระราชทานแนวทางไว้ โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 ส่วน ดังนี้
    • พื้นที่ 30% เป็นพื้นที่ปลูกไม้ยืนต้น เช่น ไม้ผล ไม้ยืนต้น ไม้ใช้สอย
    • พื้นที่ 30% เป็นพื้นที่ปลูกพืชไร่ เช่น ข้าว พืชผัก
    • พื้นที่ 30% เป็นพื้นที่เลี้ยงสัตว์ เช่น วัว เป็ด ไก่
    • พื้นที่ 10% เป็นพื้นที่สระน้ำ
  • เกษตรแบบผสมผสานระหว่างพืชกับสัตว์ เป็นรูปแบบเกษตรผสมผสานที่ปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ร่วมกัน เช่น การปลูกผักในนาข้าว การปลูกพืชผักร่วมกับการเลี้ยงปลา เป็นต้น
  • เกษตรแบบผสมผสานระหว่างพืชกับพืช เป็นรูปแบบเกษตรผสมผสานที่ปลูกพืชหลายชนิดร่วมกัน เช่น การปลูกพืชผักนานาชนิด การปลูกไม้ผลร่วมกับพืชผัก เป็นต้น

ปัจจัยสำคัญในการทำเกษตรผสมผสาน

การทำเกษตรผสมผสานประสบความสำเร็จได้ต้องอาศัยปัจจัยสำคัญหลายประการ ดังนี้

  • ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการและวิธีการทำเกษตรผสมผสาน
  • การเตรียมความพร้อมของเกษตรกรทั้งด้านทุน แรงงาน และที่ดิน
  • การสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชน

ปัจจุบัน การทำเกษตรผสมผสานได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากเป็นแนวทางการทำการเกษตรที่ยั่งยืนและสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้อย่างมั่นคง

เกษตรประณีต คืออะไร ทำน้อยแต่ใด้มากจริงหรือไม่

เกษตรประณีต คืออะไร ทำน้อยแต่ใด้มากจริงหรือไม่

เกษตรประณีต


เกษตรประณีต ไม่ใช่สิ่งที่ตายตัว เพราะความคิดแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ขอให้คิดออกจากกรอบเดิมๆ มีความหลากหลาย ประยุกต์ได้หลายรูปแบบ แต่ต้องเป็นไปอย่างเกื้อกูลและสมดุล พยายามใช้ที่ดินให้เต็มประสิทธิภาพ ความต้องการของเจ้าของจะเป็นตัวกำหนด รวมทั้งต้องปรับความคิดให้พึ่งพาตนเองให้มากที่สุด พึ่งพาธรรมชาติ




เกษตรประณีต คืออะไร ?

เกษตรประณีตเป็นแนวทางการทำเกษตรแบบผสมผสานที่เน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการจัดการทรัพยากรทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ พืช ดิน น้ำ และสัตว์ ในรูปแบบของการออมและใช้อย่างมีคุณค่ามากที่สุด ควบคู่กันไป

การทำการเกษตรประณีต (1 ไร่แก้จน) คือ การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรในพื้นที่ 1 ไร่ ให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุดโดยผู้ทำจะต้องยึดหลักในเรื่องของการออมน้ำ ออมดิน ออมต้นไม้ออมสัตว์ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้การทำ 1 ไร่แก้จนมีความยั่งยืนและเกิดการเชื่อมโยงเป็นระบบนิเวศน์ที่เกื้อกูลต่อกันประกอบด้วยปัจจัยพื้นฐานดังนี้

  • น้ำ : เป็นปัจจัยสำคัญในการปลูกพืช เกษตรกรต้องมีน้ำใช้ให้เพียงพอกับความต้องการตลอดช่วงการเพาะปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์
  • ดิน : เป็นปัจจัยหลักที่จะช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดีเพราะดินเป็นแหล่งของธาตุอาหารและอินทรีย์วัตถุมีจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ถ้าดินดีมีชีวิต พืชก็จะเติบโตอย่างสมบูรณ์โดยจะต้องมีจิตสำนึกในการใช้ดินอย่างอนุรักษ์และฟื้นฟูดินด้วยอินทรียวัตถุ ทั้งปุ๋ยคอกปุ๋ยชีวภาพ และปุ๋ยพืชสด มีการปลูกพืชคลุมดินและไม่ใช้ปุ๋ยเคมีทำลายดิน
  • ต้นไม้ : นอกเหนือจากจะให้ผลผลิตไว้บริโภคแล้ว ยังมีส่วนในการเป็นพืชพี่เลี้ยงที่ให้ร่มเงาช่วยดูดซับน้ำเพื่อรักษาความชุ่มชื้นในดิน และสร้างอินทรียวัตถุแก่ดิน ใบร่วงหล่นกลายเป็นปุ๋ยพืชซึ่งการปลูกพืชจะปลูกทั้งข้าว พืชกินรากกินหัวผักไม้เลื้อยไม้เศรษฐกิจไม้ผล ไม้สมุนไพร ไม้พุ่ม ไม้ยืนต้น ไม้ใช้สอย ไม้ประดับไว้ไล่แมลง เพื่อเป็นอาหารและใช้สอย
  • สัตว์ : เป็นทั้งอาหาร และแรงงาน มูลของสัตว์นำมาใช้ฟื้นฟูบำรุงดิน และสัตว์ที่เลี้ยงไว้สามารถนำไปจำหน่ายเพื่อเป็นแหล่งรายได้ของเกษตรกร

หลักการของเกษตรประณีต ประกอบด้วย

  • การใช้ประโยชน์จากพื้นที่ทุกตารางนิ้ว โดยจัดสรรพื้นที่ให้เหมาะสมกับลักษณะของพืชแต่ละชนิด หลีกเลี่ยงการปลูกพืชชนิดเดียวกันในพื้นที่เดียวกันเป็นจำนวนมาก เพื่อป้องกันโรคและแมลงระบาด
  • การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่า โดยการใช้น้ำอย่างประหยัด เก็บกักน้ำฝนไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง การใช้ปุ๋ยอินทรีย์แทนปุ๋ยเคมี เพื่อรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดิน
  • การเลี้ยงสัตว์ควบคู่ไปกับการปลูกพืช เพื่อเพิ่มคุณค่าทางอาหารให้กับพืชและสัตว์ ช่วยลดต้นทุนการผลิต เพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร
  • การเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุน

เกษตรประณีตมีข้อดีหลายประการ ได้แก่

  • เพิ่มผลผลิตต่อพื้นที่ เนื่องจากใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ
  • ลดต้นทุนการผลิต เนื่องจากใช้ปุ๋ยอินทรีย์แทนปุ๋ยเคมี และลดการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชและโรคพืช
  • เพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร เนื่องจากสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตได้
  • รักษาสิ่งแวดล้อม เนื่องจากใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและยั่งยืน

เกษตรประณีตเป็นแนวทางการทำเกษตรที่สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันและอนาคต เนื่องจากโลกกำลังเผชิญกับปัญหาทรัพยากรธรรมชาติที่ลดลง และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เกษตรปราณีตจึงเป็นแนวทางที่จะช่วยเกษตรกรไทยสามารถอยู่รอดได้อย่างยั่งยืน

ตัวอย่างการทำเกษตรปราณีตในไทย ได้แก่

  • การปลูกผักในโรงเรือน
  • การปลูกพืชผักสวนครัวแบบผสมผสาน
  • การเลี้ยงปลาในกระชัง
  • การเลี้ยงไก่ไข่
  • การเลี้ยงโคนม

เกษตรกรไทยที่สนใจทำเกษตรปราณีต สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมส่งเสริมการเกษตร กรมวิชาการเกษตร และสถาบันการศึกษาต่างๆ

ที่มา : sarakaset.com




บทความอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

แบบบ้านน็อคดาวน์ทรงเอเฟรม ดีไซน์สวยโดดเด่น ทันสมัยสวยงาม

แบบบ้านน็อคดาวน์ทรงเอเฟรม ดีไซน์สวยโดดเด่น ทันสมัยสวยงาม

แบบบ้านน็อคดาวน์ทรงเอเฟรม

แบบบ้านน็อคดาวน์ทรงเอเฟรม


แบบบ้านน็อคดาวน์ทรงเอเฟรม เป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศไทยในปัจจุบัน เนื่องจากมีการออกแบบที่สวยงาม ทันสมัย และให้ความรู้สึกอบอุ่น สบาย เหมาะกับการพักผ่อน บ้านน็อคดาวน์ทรงเอเฟรมมีให้เลือกหลากหลายขนาดและรูปแบบ ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของแต่ละคน




ซึ่งวันนี้เรามีไอเดียบ้านน็อคดาวน์ทรงเอเฟรม ยกใต้ถุนสูง ภายในตกแต่งน่าอยู่ ดีไซน์สวยโดดเด่น ทันสมัยสวยงาม สำหรับบ้านหลังนี้ เป็น แบบบ้านน็อคดาวน์ทรงเอเฟรม พร้อมฟังก์ชั่น ขนาด 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ  1ระเบียงดาดฟ้า มาพร้อมกับ โครงสร้างเหล็ก จะสวยขนาดไหน ไปชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้กันได้เลยครับ

ผลงานและรูปภาพ : บ้านน็อคดาวน์ B&B Little House
เรียบเรียง : Kasetnew.com

แบบบ้านน็อคดาวน์ทรงเอเฟรม

แบบบ้านน็อคดาวน์ทรงเอเฟรม

บ้านน็อคดาวน์จึงมีข้อดีหลายประการ เช่น

  • ใช้เวลาในการก่อสร้างที่รวดเร็ว โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 1-3 เดือน ขึ้นอยู่กับขนาดและแบบบ้าน
  • ประหยัดค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง เนื่องจากใช้วัสดุและแรงงานน้อยกว่าบ้านทั่วไป
  • ยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนรูปแบบและขนาดได้ตามความต้องการ
  • สามารถเคลื่อนย้ายได้ เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการใช้ชั่วคราวหรือพื้นที่ที่ไม่สามารถก่อสร้างบ้านถาวรได้

แบบบ้านน็อคดาวน์ทรงเอเฟรม

รายละเอียด

บ้านน็อคดาวน์ B&B Little House

  • บ้านน็อคดาวน์ทรงเอเฟรม ปกติวามสูงจะอยู่ที่ 1 เมตร หลังนี้ลูกค้าเพิ่มความสูงเป็น 2 เมตร , เพิ่มอ่างอาบน้ำ ได้มาตรฐาน มีแบบ สามารถขอบ้านเลขที่ได้ด้วย 
  • ตัวบ้านกว้าง 3 เมตร ยาว 6 เมตร พร้อมระเบียง ขนาด 4.20 × 2 , 2 × 1.20 บ้านสูง 1 เมตร ราคา 235,000 บาท ไม่รวมรากฐาน  (ส่งฟรี)
  • เพิ่มความสูงเป็น 2 เมตร ราคา 305,000 บาท รวมรากฐาน(ส่งฟรี) ถ้ารับเฉพาะตัวบ้าน สูง 50 ซ.ม. ราคา 185,000 บาท ไม่รวมรากฐาน(ส่งฟรี)
    ถ้าลูกค้าต้องการอ่างอาบน้ำ เพิ่มอีก 15,000 บาท

บ้านน็อคดาวน์เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างบ้านที่รวดเร็ว ประหยัดค่าใช้จ่าย และยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนรูปแบบและขนาดได้ตามความต้องการ

ที่มา | บ้านน็อคดาวน์ B&B Little House

ติดต่อโทร : 096-1490026


หมายเหตุ: ทางเว็บไม่ได้มีการรับสร้างบ้าน เราลงให้ดูเพื่อเป็นไอเดียเท่านั้น หากสนใจแบบบ้านที่รีวิว สามารถติดต่อเจ้าของผลงานโดยตรงเองได้เลย ส่วนราคาก่อสร้าง ขึ้นอยู่กับสถานที่ พื้นที่ก่อสร้าง และ เกรดวัสดุ ซึ่งมีปรับขึ้น-ลงทุกปีครับ




บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

แบบบ้านชั้นเดียวสไตล์มินิมอล ออกแบบสวยทันสมัย พื้นที่ 120 ตารางเมตร

แบบบ้านชั้นเดียวสไตล์มินิมอล ออกแบบสวยทันสมัย พื้นที่ใช้สอย 120 ตารางเมตร

แบบบ้านชั้นเดียวสไตล์มินิมอล

แบบบ้านชั้นเดียวสไตล์มินิมอล


แบบบ้านชั้นเดียวสไตล์มินิมอล เป็นรูปแบบบ้านที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากเน้นความเรียบง่าย สะอาดตา เน้นการใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นแต่จำเป็น และใช้โทนสีอ่อนสบายตา ช่วยให้บ้านดูกว้างขวาง โปร่งโล่ง และน่าอยู่มากขึ้น

การออกแบบบ้านชั้นเดียวสไตล์มินิมอล สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการและไลฟ์สไตล์ของเจ้าของบ้าน เช่น บ้านที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ อาจจะออกแบบให้มีบันไดที่มีความลาดเอียงน้อยลง หรือบ้านที่มีเด็กเล็กอาศัยอยู่ อาจจะออกแบบให้มีประตูและหน้าต่างที่กว้างขึ้นเพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก เป็นต้น




วันนี้เรามี แบบบ้านชั้นเดียวสไตล์มินิมอลสวยๆ  มาฝากกันอีกเช่นเคย สำหรับบ้านหลังนี้ การปลูกสร้างเป็น บ้านชั้นเดียว ยกพื้นสูงจากที่ดินเล็กน้อย ประมาณ 30 ซม. การออกแบบบ้านสไตล์ผสมผสานทันสมัย ซึ่งเป็นผลงานการออกแบบของทีมงาน รวยก่อสร้าง พิกัดก่อสร้าง อ.ภาชี จ.อยุธยา จะสวยงามขนาดไหนไปชมรายล่ะเอียดกันเลยครับ

ที่มา | รวยก่อสร้าง
เรียบเรียง | Kasetnew.com

แบบบ้านชั้นเดียวสไตล์มินิมอล

บริเวณหน้าบ้านมีการออกแบบให้มีประตูทางเข้าเป็นประตูไม้บวกกระจกแบบเปิดปิดสองประตู ฝ้าเพดานโทนสีขาว แบบบ้านชั้นเดียวสไตล์มินิมอล

รายละเอียดเพิ่มเติม.

  • บ้านตัวอย่าง โครงการชนากานต์วิลล์ ต.โคกม่วง อ.ภาชี จ.อยุธยา
  • ขนาด 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว 1 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 120 ตรม.
  • ราคาจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงอยู่ที่การเลือกใช้วัสดุและระยะทางหน้างาน
  • ติดต่อ : 0636191556
  • id line : 0636191556

แบบบ้านชั้นเดียวสไตล์มินิมอล

แบบบ้านชั้นเดียวสไตล์มินิมอล

ภายในตัวบ้านมีการตกแต่งสวยงามลงตัวเน้นโทนสีขาวเป็นหลัก ฝ้าเพดานเลือกใช้ฝ้าหลุด ประตูหน้าต่างเป็นวงกบไม้บวกกระจกสไตล์มินิมอล

ประตูห้องนอนทั้งสองห้องเลือกใช้ประตูไม้ขนาดใหญ่




ภายในห้องนอนมีการตกแต่งที่เรียบง่าย เน้นโทนสีขาวเป็นหลัก มีฟังก์ชั่นการใช้งานครบ ไม่ว่าจะเป็นที่นอน ตู้ โต้ะแป้ง

ห้องครัวกรุกระเบื้องผนังฝั่งครัวโทนสีขาวสวยงามและช่วยกันเปื้อนผนัง มีหน้าต่างเหนือเคาน์เตอร์ด้านบนช่วยรับแสงและระบายกลิ่นอาหารในห้อง อีกบานบอยู่หนือซิ่งล้างจาน ส่วนเคาน์เตอร์นั้มีขนาดยาวเป็นรูปทรงตัวแอล กรุด้วยกระเบื้องโทนสีขาว 

ภายในห้องน้ำนั้นมีการเลือกใช้กระเบื้องพื้นที่เป็นโทนสีเทาตัดกับกระเบื้องผนังที่เป็นโทนสีขาว และมีการจัดวางองค์ประกอบภายในได้อย่างเป็นสัดส่วนทั้งมุมใช้งานแบบเปียก และแบบแห้ง ซึ่งน่าใช้งานมากๆ

หากใครที่กำลังมองหาแบบบ้านที่เรียบง่าย สะอาดตา น่าอยู่ และประหยัดค่าใช้จ่าย บ้านชั้นเดียวสไตล์มินิมอล ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย

ข้อมูลและภาพประกอบจาก : สร้างบ้านสระบุรี&ทีมงานรวยก่อสร้าง 


หมายเหตุ : ทางเพจไม่ได้รับสร้างบ้านนะคะ เราลงให้ดูเป็นไอเดียเท่านั้น หากสนใจแบบบ้านที่รีวิว สามารถติดต่อเจ้าของผลงานโดยตรงเองได้เลย ส่วนราคาก่อสร้าง ขึ้นอยู่กับสถานที่ พื้นที่ก่อสร้าง และ เกรดวัสดุ ซึ่งมีปรับขึ้น-ลงทุกปีครับ




บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

แบบบ้านพักอาศัยชั้นเดียว สไตล์โมเดิร์น 4 ห้องนอน 2ห้องน้ำ ห้องโถงกว้าง

แบบบ้านพักอาศัยชั้นเดียว สไตล์โมเดิร์น ขนาด 4 ห้องนอน 2ห้องน้ำ 1ห้องครัว ห้องโถงกว้าง

แบบบ้านพักอาศัยชั้นเดียว

แบบบ้านพักอาศัยชั้นเดียว


แบบบ้านพักอาศัยชั้นเดียว หรือ บ้านสไตล์โมเดิร์น เป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากมีการออกแบบที่เรียบง่าย เน้นความทันสมัย และฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน บ้านสไตล์โมเดิร์นมักมีรูปทรงเรขาคณิตที่ชัดเจน เน้นการใช้เส้นตรงและรูปทรงสี่เหลี่ยมเป็นหลัก หลังคามักเป็นหลังคาแบนหรือหลังคาเพิงหมาแหงน วัสดุที่ใช้มักเป็นวัสดุสมัยใหม่ เช่น กระจก เหล็ก คอนกรีต เป็นต้น




วันนี้เรามี แบบบ้านพักอาศัยชั้นเดียวสไตล์โมเดิร์น ดีไซน์สวยโดดเด่น ทันสมัยสวยงาม เป็นแบบบ้านชั้นเดียวสไตล์โมเดิร์น ขนาด 4 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, 1 โถง, 1 ระเบียงใหญ่ สามารถรองรับครอบครัวขนาดกลาง  ผลงานการออกแบบและก่อสร้างจาก บริษัท ไนน์ตี้ไฟว์ คอนสตรัคชั่น ลำปาง จำกัด   จะสวยขนาดไหน ไปชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้กันได้เลยครับ

ผลงานและรูปภาพ : บริษัท ไนน์ตี้ไฟว์ คอนสตรัคชั่น ลำปาง จำกัด
เรียบเรียง : Kasetnew.com

แบบบ้านพักอาศัยชั้นเดียว

แบบบ้านพักอาศัยชั้นเดียว

หลังคาบ้านที่เป็นทรงเพิงแหงน มุงด้วยเมทัลชีทอย่างดี ตามด้วยฝ้าชายคาสีขาวที่มีไฟดาวน์ไลท์ทรงกลมฝังไว้ ตัวบ้านที่แต่งด้วยสีเทา เสริมด้วยบัวระแนงสีส้มที่สดใส ส่วนผนังใต้ชายคาที่กรุทับด้วยไม้ฝาเฌอร่า คาดด้วยบัวระแนงสีดำ ระเบียงหน้าบ้านปูพื้นด้วยกระเบื้องสีน้ำตาล และมีม้านั่งที่สร้างไว้เพื่อใช้เป็นที่พักผ่อน

ประตูใหญ่ที่เปิดเข้าภายใน เป็นบานกระจกใสที่โดดเด่นด้วยขอบบัวสีขาว ห้องโถงกว้างที่เปิดประตูเข้ามาเจอ ปูพื้นด้วยกระเบื้องผิวมันสีน้ำตาล ผนังห้องนี้แต่งด้วยสีเขียวอ่อน ฝ้าเพดานโซนหน้าเป็นแบบหลุมที่มีไฟซ่อน และตรงกลางได้ประดับโคมไฟช่อที่ส่องแสงสว่างทั่วห้อง

แบบบ้านพักอาศัยชั้นเดียว

แบบบ้านพักอาศัยชั้นเดียว




ห้องนอน โทนสีของผนังเป็นสีเขียวแบบห้องโถง พื้นห้องยังคงปูทับด้วยกระเบื้องผิวมันสีน้ำตาล ส่วนฝ้าเพดานเป็นแบบเรียบสีขาวที่ฝังไฟดาวน์ไลท์ไว้ แต่ละห้องสว่าง และน่าอยู่ หน้าต่างกระจกใสที่เป็นช่องทางระบายอากาศ มีบานมุ้งลวดติดตั้งไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ร้ายเข้ามาได้

ห้องครัว พื้นห้องปูทับด้วยกระเบื้องอย่างดี รวมถึงเคาน์เตอร์ครัวและผนังบริเวณนั้น บนเคาน์เตอร์ได้ติดตั้งอ่างล้างจานแบบ 2 ช่อง ส่วนในขณะที่ประกอบอาหาร ก็มีทั้งหน้าต่างและประตูหลังบ้านที่เป็นช่องทางระบายอากาศ

ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอยของห้องนี้มีขนาดกว้างพอเหมาะ ทั้งพื้นและผนังกรุทับด้วยกระเบื้องอย่างดี โดยมีลวดลายและโทนสีที่เข้ากัน ที่ฝ้าเพดานฝังไฟดาวน์ไลท์ไว้ ตามจุดต่างๆของห้องติดตั้งสุขภัณฑ์ที่หลากหลาย และอีกหนึ่งอย่างที่ขาดไม่ได้คือหน้าต่างระบายอากาศ

จบไปแล้วครับ กับแบบบ้านโมเดิร์นชั้นเดียวหลังนี้ที่สร้างและออกแบบมาได้อย่างลงตัว หากทุกท่านชอบและได้ไอเดียดีๆ ไปใช้กับบ้านของท่าน หากใครที่ชื่นชอบหรือสนใจ ติดต่อสอบถามได้จากที่มาด้านล่างครับ

ขอบคุณที่มา: เพจ รับสร้างบ้านลำปาง ภาคเหนือ บริษัท ไนน์ตี้ไฟว์ คอนสตรัคชั่น ลำปาง จำกัด


ปล. งบประมาณในการสร้างบ้านแต่ละหลังที่แตกต่างกันนั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ก่อสร้าง คุณภาพหรือเกรดของวัสดุ การว่าจ้างช่างฝีมือหรือผู้รับเหมา ฯลฯ ดังนั้น ข้อมูลของบ้านหลังนี้จึงมีไว้เพื่อเป็นตัวอย่างให้ศึกษาเท่านั้น ไม่สามารถนำไปเป็นมาตรฐานในการสร้างบ้านอื่นๆ ที่มีสภาพปัจจัยที่แตกต่างกันได้




บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

แบบบ้านสไตล์คอนเทมโพรารี การผสมผสานที่ลงตัว เรียบหรู ดูดีทันสมัย

แบบบ้านสไตล์คอนเทมโพรารี การผสมผสานที่ลงตัว เรียบหรู ดูดีทันสมัย

แบบบ้านสไตล์คอนเทมโพรารี

แบบบ้านสไตล์คอนเทมโพรารี


แบบบ้านที่ได้รับความนิยมมาเนิ่นนาน และไม่เคยตกเทรนด์ นั้นก็คือ แบบบ้านสไตล์คอนเทมโพรารี (Contemporary style) เป็นบ้านสไตล์ร่วมสมัย ผสมผสานสไตล์โมเดิร์นและคลาสสิกเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ทำให้บรรยากาศบ้านมีความร่วมสมัยของกลิ่นอายอดีตและปัจจุบัน ให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวาและไม่น่าเบื่อ นอกจากนี้บ้านบ้านสไตล์คอนเทมโพรารี (Contemporary style) ยังให้ความอบอุ่น ผ่อนคลาย เรียบง่าย ใกล้ชิดธรรมชาติ เน้นฟังก์ชันการใช้งานมากกว่าเน้นความหรูหรา เหมาะสำหรับการอยู่อาศัย จึงเป็นบ้านที่สามารถอยู่อาศัยได้ยาวนานในทุกยุคทุกสมัย กล่าวได้ว่าสวยอมตะไม่ตกยุคนั่นเอง




สำหรับบ้านที่เราจะนำมาเสนออีกแล้วครับ เป็นไอเดีย แบบบ้านสไตล์คอนเทมโพรารี่ โทนสีอ่อน พร้อมระเบียงพักผ่อน ภายในประกอบด้วย ชั้น 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องโถง 1 พื้นที่อเนกประสงค์  ระเบียงใหญ่ๆ  เชิญชมรายละเอียดด้านในตัวบ้านกันครับ

ผลงานการออกแบบและก่อสร้างจาก | สิริประพันธ์ เฮ้าส์ รับสร้างบ้านครบวงจร ยโสธร ร้อยเอ็ด
เจ้าของบ้าน |
คุณกิติยา

เรียบเรียง | Kasetnew.com

แบบบ้านสไตล์คอนเทมโพรารี

ในส่วนของระเบียงด้านหน้าบ้านปูพื้นด้วยกระเบื้องโทนสีเทา พร้อมทั้งประตูบ้านนั้นใช้เป็นประตูกระจกบานขนาดใหญ่ หน้าต่างเลือกใช้เป็นบานกระจกวงกบอลูมิเนียม บันไดทางขึ้นหน้าบ้านขนาดใหญ่สะดวกสบายต่อการใช้งาน

แบบบ้านสไตล์คอนเทมโพรารี

เสาหน้าบ้านตกแต่งด้วยกระเบื้องหินอ่อนสวยงามเพิ่มความโดดเด่นมีมิติมากขึ้น และบนเสาหน้าบ้านยังเพิ่มโคมไปส่องสว่างเพิ่มเติม

แบบบ้านสไตล์คอนเทมโพรารี

ลักษณะเด่นของบ้านสไตล์คอนเทมโพรารี่

  • รูปทรงเรขาคณิตที่ชัดเจน
  • เส้นสายที่เรียบง่ายและตรงไปตรงมา
  • โทนสีเรียบๆ เช่น สีขาว สีดำ สีเทา หรือสีเอิร์ธโทน
  • เน้นการใช้วัสดุที่ทันสมัย เช่น กระจก โลหะ ไม้
  • เน้นการประหยัดพลังงาน

การตกแต่งบ้านสไตล์คอนเทมโพรารี่เน้นความเรียบง่ายและทันสมัย นิยมใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีรูปทรงเรขาคณิตที่ชัดเจน วัสดุที่ใช้มักเป็นวัสดุที่ทันสมัย เช่น กระจก โลหะ ไม้ โทนสีที่ใช้มักเป็นโทนสีเรียบๆ เช่น สีขาว สีดำ สีเทา หรือสีเอิร์ธโทน

แบบบ้านสไตล์คอนเทมโพรารี

ฝั่งนี้ห้องด้านหน้าเป็นบานกระจกกว้าง ช่วยรับแสงและชมวิวด้านนอก ตกแต่งผนังด้านหน้าด้วยหินตกแต่งสีเทาดำ เพิ่มลูกเล่นให้กับตัวบ้านด้วยหินตกแต่งสีเทาเข้ม

แบบบ้านสไตล์คอนเทมโพรารี

บริเวณรบอบตัวบ้านนั้นมีการเทพื้นปูนรอบๆกว้างประมาณ 70 CM  ทำให้ง่ายต่อการดูแลและการทำความสะอาด

เมื่อเราเข้ามาภายในตัวบ้านนั้น เราจะพบกับส่วนของห้องโถงขนาดใหญ่ ซึ่งภายในบ้านนั้นเน้นโทนสีขาวอ่อน ๆ ตัดด้วยสีเข้ม ประตูห้องนอนเลือกใช้ประตูไม้ขนาดใหญ่ ทำให้บ้านภายในบ้านดูอบอุ่นละมุนตา ฝ้าเพดานออกแบบทำเป็นฝ้าหลุมทาสีขาว พร้อมกับติดตั้งโคมไฟแ ส่วนพื้นปูกระเบื้องลายหินอ่อน

บ้านสไตล์คอนเทมโพรารี




ภายในห้องโถงสามารถเข้าออกได้จากประตูใหญ่ด้านหน้าและประตูบานเลื่อนด้านหลังเฉลียง มีพื้นที่มุมรับแขกกว้างขวาง แต่งฝ้าหลุมด้านบน ไฟซ่อนฝ้าสวยงาม

ห้องนอน  ตกแต่งคุมโทนสีเทาอ่อนตัดด้วยสีเข้มเหมือนกับโถงบ้าน พื้นปูกระเบื้องลายหินอ่อน ฝ้าเพดานใช้เป็นฝ้าสีขาวแผ่นเรียบ พร้อมกับมีหน้าต่างไว้ให้ระบายอากาศ

ห้องน้ำมีทั้งหมด 2 ห้อง แต่งด้วยกระเบื้องลายสีขาวตัดพื้นสีเทาสวยงาม มีช่องผนังสำหรับวางของใช้หรือของตกแต่ง

เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับแบบบ้านเดี่ยวชั้นเดียว ออกแบบในสไตล์คอนเทมโพรารีหลังนี้ เป็นบ้านที่ออกแบบได้อย่างสวยงามลงตัว เพียงพอต่อการใช้งาน เพื่อนที่สนใจ อยากได้ข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อทางช่องทางด้านล่างนี้ได้เลยครับ



ผลงานการออกแบบและก่อสร้างจาก | สิริประพันธ์ เฮ้าส์ รับสร้างบ้านครบวงจร ยโสธร ร้อยเอ็ด

ติดต่องานได้ตามรายล่ะเอียดด้านล่างเลยครับ
Tel ➤ 061 695 2366
Line ➤ @SRPHOUSE101 หรือ https://lin.ee/eHGiVx6
Office ➤ https://bit.ly/3uCp2HI
Instagram ➤ siripraphan_house


หมายเหตุ : ทางเว็บไม่ได้รับสร้างบ้านนะครับ เราลงให้ดูเป็นไอเดียเท่านั้น หากสนใจแบบบ้านที่รีวิว สามารถติดต่อเจ้าของผลงานโดยตรงเองได้เลย ส่วนราคาก่อสร้าง ขึ้นอยู่กับสถานที่ พื้นที่ก่อสร้าง และ เกรดวัสดุ ซึ่งมีปรับขึ้น-ลงทุกปีครับ


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

บ้านเดี่ยวสไตล์นอดิก หรูหราทันสมัย พื้นที่ใช้สอย 120 ตร.ม.

บ้านเดี่ยวสไตล์นอดิก หรูหราทันสมัย พื้นที่ใช้สอย 120 ตร.ม.

บ้านเดี่ยวสไตล์นอดิก

บ้านเดี่ยวสไตล์นอดิก


บ้านเดี่ยวสไตล์นอร์ดิก หรือบางครั้งก็เรียกว่าบ้านสไตล์สแกนดิเนเวีย เป็นรูปแบบบ้านที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรมของยุโรปตอนเหนือ ซึ่งบ้านแนวนอร์ดิกจะมีเอกลักษณ์ในเรื่องของความอบอุ่น เรียบง่าย เน้นความโปร่งโล่ง และมีจุดเด่นก็คือรูปทรงฟาซาดที่มีลักษณะเป็นจั่วห้าเหลี่ยม




วันนี้เราได้นำตัวอย่างบ้านเดี่ยวสไตล์นอดิก ที่สุดแห่งบ้านสวย เปี่ยมด้วยคุณภาพ หรูหราทันสมัย ผสมกลิ่นอายสไตล์ยุโรป ดีไซน์สวยโดดเด่น ทันสมัยสวยงาม มาฝากกันอีกเช่นเคย สำหรับบ้านหลังนี้ เป็น บ้านเดี่ยวสไตล์นอดิก ขนาด 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 โถง 1 ห้องครัว 2 ที่จอดรถ สามารถรองรับครอบครัวขนาดกลางและขนาดใหญ่ พื้นที่ใช้สอย 110-120 ตร.ม. ผลงานการออกแบบและก่อสร้างจาก U-Sabai HOME โครงการบ้านเดี่ยว พิษณุโลก จะสวยขนาดไหน ไปชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้กันได้เลยครับ

ผลงานและรูปภาพ | U-Sabai HOME โครงการบ้านเดี่ยว พิษณุโลก
เรียบเรียง : Kasetnew.com

บ้านเดี่ยวสไตล์นอดิก

ลักษณะเป็นบ้านชั้นเดี่ยว ความเด่นของการออกแบบจะอยู่ที่รอบๆ เอกลักษณ์ของบ้านแบบนอร์ดิก นอกเหนือจากนี้ ในส่วนของเนื้อหาการตกแต่งจะเน้นย้ำที่ความง่ายๆ ในแบบไม่นิมอลที่กับสไตล์นอร์ดิกได้อย่างดีเยี่ยม

บ้านเดี่ยวสไตล์นอดิก

ลักษณะเด่นของบ้านสไตล์นอร์ดิก ภายนอก

  • หลังคาทรงจั่วแบบหน้าจั่วซ้อนกัน เพื่อช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านและทำให้บ้านดูมีมิติ
  • ผนังภายนอกมักทำจากไม้หรืออิฐ ตกแต่งด้วยโทนสีอ่อน เช่น สีขาว สีเทา สีเบจ สีอ่อน เพื่อให้ดูอบอุ่นและกลมกลืนกับธรรมชาติ
  • หน้าต่างและประตูมักทำจากวัสดุไม้หรือกระจกขนาดใหญ่ เพื่อช่วยให้แสงจากธรรมชาติส่องเข้ามาภายในบ้านได้อย่างเต็มที่
  • อาจมีการนำวัสดุธรรมชาติอื่นๆ เช่น หิน ไม้ระแนง มาตกแต่งเพิ่มเติม

บ้านเดี่ยวสไตล์นอดิก

ลักษณะเด่นของบ้านสไตล์นอร์ดิก ภายใน

  • เน้นความเรียบง่าย โปร่งโล่ง ไม่ซับซ้อน
  • เฟอร์นิเจอร์มักทำจากไม้หรือวัสดุธรรมชาติอื่นๆ โทนสีอ่อน
  • การตกแต่งภายในมักเน้นการใช้แสงธรรมชาติ ตกแต่งด้วยต้นไม้หรือดอกไม้เพื่อเพิ่มบรรยากาศสดชื่น
  • อาจมีการใช้สีสันสดใสบ้างในบางจุดเพื่อเพิ่มความโดดเด่น

ภายในตัวบ้านเรียกใช้กระเบื้องพื้นลายไม้สีน้ำตาล ตัดกับผนังสีขาวเพิ่มความโดดเด่นภายในเน้นโปร่งโล่งสบาย




ภายในห้องน้ำนั้น ทำการกรุด้วยกระเบื้องทั้งห้องไม่ว่าจะเป็นพื้นและผนัง โดยใช้กระเบื้องสีเทาเป็นหลัก ก่อผนังกั้นส่วนอาบน้ำไว้ด้านในแบบเดียวกับอีกห้อง พร้อมทำพื้นต่างระดับช่วยระบายน้ำแบบเดียวกัน และยังมีอ่างล่างหน้าขนาดใหญ่สวยงามน่าใช้งานมากๆ ครับ

บ้านสไตล์นอร์ดิกได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นรูปแบบบ้านที่เรียบง่าย อบอุ่น เข้ากับธรรมชาติ และตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบายและประหยัดพลังงาน สำหรับใครที่ชื่นชอบหรือสนใจ ติดต่อสอบถามได้จากที่มาด้านล่างครับ

ขอบคุณรูปภาพเเละข้อมูล : U-Sabai HOME โครงการบ้านเดี่ยว พิษณุโลก

สนใจสอบถามเพิ่มเติม

  • โทร. 095-6301999/086-0432827
  • Line Id : 095-6301999

หมายเหตุ : ทางเว็บไม่ได้รับสร้างบ้านนะครับ เราลงให้ดูเป็นไอเดียเท่านั้น หากสนใจแบบบ้านที่รีวิว สามารถติดต่อเจ้าของผลงานโดยตรงเองได้เลย ส่วนราคาก่อสร้าง ขึ้นอยู่กับสถานที่ พื้นที่ก่อสร้าง และ เกรดวัสดุ ซึ่งมีปรับขึ้น-ลงทุกปีครับ




บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

บ้านสไตล์นอร์ดิก (Nordic Style) รูปทรงตัวแอล เน้นพื้นที่ใช้สอยได้อย่างลงตัว

บ้านสไตล์นอร์ดิก (Nordic Style) รูปทรงตัวแอล เน้นพื้นที่ใช้สอยได้อย่างลงตัว

บ้านสไตล์นอร์ดิก

บ้านสไตล์นอร์ดิก


บ้านสไตล์นอร์ดิก หรือ Nordic House Style ถือเป็นอีกหนึ่งสไตล์บ้านที่กำลังได้รับความนิยมและเป็นที่พูดถึงเป็นอย่างมากในขณะนี้ โดยเฉพาะใครที่ตกหลุมรักบ้านดีไซน์สวย เรียบง่าย และชวนผ่อนคลาย รวมถึงการออกแบบที่เหมาะสมกับผู้อยู่อาศัย Nordic House Style คือสไตล์บ้านในฝันที่คุณกำลังตามหาอยู่แน่นอน




ซึ่งวันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปชมบ้านไม้สวยๆ ซึ่งเป็น บ้านสไตล์นอร์ดิก  ขนาด 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องโถงใหญ่   เป็นผลงานการออกแบบ สิริประพันธ์ เฮ้าส์ รับสร้างบ้านครบวงจร ยโสธร ร้อยเอ็ด จะสวยขนาดไหน ไปชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้กันได้เลยครับ

ที่มา | สิริประพันธ์ เฮ้าส์ รับสร้างบ้านครบวงจร ยโสธร ร้อยเอ็ด
เรียบเรียง : kasetnew.com

สิริประพันธ์ เฮ้าส์ รับสร้างบ้านครบวงจร ยโสธร ร้อยเอ็ด

บ้านหลังนี้ถูกออกแบบรูปทรงเป็นตัวแอล เป็นบ้านขนาด 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องโถงใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ดินทรงหน้ากว้าง-ลึก โดดเด่นด้วยหลังคาทรงจั่ว ดูสวยงามและมีเอกลักษณ์ โดยทุกส่วนภายในบ้านมีการจัดสรรพื้นที่ให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกถึงความเป็นส่วนตัว เพิ่มความสว่างให้บ้านดูสว่างด้วยโคมไฟเล็กๆ ยามค่ำคืน

บ้านสไตล์นอร์ดิก

เพิ่มความสวยงามด้วยลายเส้นเท่ๆ ช่วยเสริมบรรยากาศให้บ้านดูโมเดิร์นมากยิ่งขึ้น

บ้านสไตล์นอร์ดิก

บ้านสไตล์นอร์ดิก

บริเวณด้านข้างของตัวบ้านก็ยังคงเป็นบานกระจกที่สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกเป็นการเข้าบ้านได้ทั้งด้านหน้าและด้านข้างของตัวบ้านและมีพื้นที่ด้านหน้าและด้านข้างที่ราดด้วยพื้นคอนกรีตเพื่อความสะดวกต่อการใช้งาน และการดูแลรักษา

บ้านสไตล์นอร์ดิก




บ้านสไตล์นอร์ดิก

บ้านสไตล์นอร์ดิก

ภายในบ้านถูกตกแต่งโดยโทนสีขาว และออกแบบให้มีช่องรับแสงที่เยอะ จึงทำให้บรรยากาศข้างในบ้านดูสว่างในช่วงเวลากลางวัน อยู่แล้สรู้สึกไม่อึดอัด และข้อดีของการตกแต่งห้องโทนสีขาวจะทำให้บ้านดูกว้าง อีกทั้งแต่งกับโทนสีไหนก็ดูลงตัว

ภายในบ้านปูกระเบื้องหินอ่อนและมีผนังโทนสีขาว ซึ่งการออกแบบบ้านนั้นเน้นสไตล์สีขาว ฝ้าเพดานเลือกใช้เป็นฝ้าหลุมพร้อมโคมไฟขนาดใหญ่ เพิ่มความมีมิติให้กับเจ้าบ้านได้อย่างสวยงาม

ห้องนอนนั้น พื้นห้องนี้เป็นกระเบื้องลายเดียวกับห้องโถงส่วนกลางของบ้านช่วยให้รู้สึกอบอุ่น ผนังและฝ้าสีขาวสว่าง มีส่วนทำให้ห้องปลอดโปร่ง ดูโล่ง รวมถึงแสงธรรมชาติที่ส่องผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง และได้เลือกใช้ประตูห้องที่เป็นบานไม้ ซึ่งแข็งแรง ทนทาน



สำหรับพื้นที่การใช้งานเฉพาะห้องน้ำมีพื้นที่แยกส่วนระหว่างห้องอาบน้ำและสำหรับใช้ในพื้นที่แห้งซึ่งเป็นการออกแบบที่สะดวกต่อการใช้งานสำหรับคนภายในบ้านรวมถึงมีอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการใช้งานในครบครันและมีอ่างอาบน้ำพร้อมฟิล์มกระจกกันระหว่างกลาง

สำหรับใครที่กำลังกำลังมองหาแบบบ้านสวยๆ รูปทรงแปลกใหม่ ดีไซน์ทันสมัย มาพร้อมกับฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของครอบครัวในยุคปัจจุบันได้อย่างลงตัว สามารถเข้าไปชมผลงานการออกแบบเพิ่มเติมได้จากทางเพจ สิริประพันธ์ เฮ้าส์ รับสร้างบ้านครบวงจร ยโสธร ร้อยเอ็ด หรือ สอบรายละเอียดเพิ่มเติมตามข้อมูลที่ขึ้นอยู่ด้านล่างนี้ได้เลย


หมายเหตุ : ทางเพจไม่ได้รับสร้างบ้าน เราลงให้ดูเป็นไอเดียเท่านั้น หากสนใจแบบบ้านที่รีวิว สามารถติดต่อเจ้าของผลงานโดยตรงเองได้เลย ส่วนราคาก่อสร้าง ขึ้นอยู่กับสถานที่ พื้นที่ก่อสร้าง และ เกรดวัสดุ ซึ่งมีปรับขึ้น-ลงทุกปีครับ


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ