การเลี้ยงกบในล้อรถยนต์ หรือ เลี้ยงกบคอนโด ต้นทุนน้อยประหยัดพื้นที่
การเลี้ยงกบในล้อรถยนต์
สวัดดีครับ วันนี้จะพามาทำความรู้จักกับการ “เลี้ยงกบคอนโด” หรือ “การเลี้ยงกบในล้อรถยนต์” สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเพาะเลี้ยงสัตว์ไม่ว่าจะเป็นอาชีพหลัก หรือเป็นงานอดิเรกเวลาว่างก็ตามครับ ซึ่งในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงเรื่องของการเลี้ยงกบคอนโดกันครับ รวมทั้งวิธีการหาช่องทางการจำหน่าย ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่มีเนื้อที่ในการเลี้ยงกบที่จำกัดนั้น การเลี้ยงกบในล้อรถยนต์ ถือได้ว่าตอบโจทย์ได้ดีเลยทีเดียวครับ การจัดการก็ง่ายสะดวกสบายเลยทีเดียว
การเลี้ยงกบในล้อรถยนต์ หรือ เลี้ยงกบคอนโด เป็นการนำเอายางรถยนต์เก่ามาเรียงซ้อนกันประมาณ 3 ชั้น แล้วใส่น้ำในล้อรถยนต์เล็กน้อยเพื่อที่กบจะได้เข้าไปอาศัย ทำให้ประหยัดเนื้อที่และงบประมาณมากกว่าการสร้างบ่อซีเมนต์
การเลือกสถานที่เพาะเลี้ยงกบ
สำหรับพื้นที่หรือบริเวณที่เราจะเลี้ยงกบนั้นเป็นสิ่งสำคัญควรเลือกพื้นที่ ที่มีแสงรำไรไม่ร้อนมาก ไม่ควรวางตากแดดและ ควรห่างจากเสียงรบกวนพอสมควรเพื่อกบจะได้พักผ่อนและเติบโตเร็วกบจะได้ไม่เครียด
ปัจจัยที่จำเป็นต้องใช้ในการเพาะเลี้ยงกบ
สำหรับวัสดุอุปกรณืที่จำเป็นในการเลี้ยงกบคอนโดนั้นประกอบไปด้วย
- ยางรถเก่า ใช้จำนวน 3 เส้น ต่อ 1 บ่อ เลี้ยง ใช้จำนวนมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับพื้นที่
- ทรายหยาบ
- ตะแกรงขนาดที่สามารถปิดด้านบนยางรถได้ เพื่อป้องกันกบกระโดดออก
- ปูนขาว
- พันธุ์กบ ควรเลือกกบนาเพราะเจริญเติบโตเร็ว และเป็นที่นิยมของผู้บริโภค
ขั้นตอนการทำ
-
- เริ่มจากการจัดเตรียมพื้นที่ในการวางยางรถเก่า ควรเป็นพื้นที่ราบเสมอ มีแสงแดดส่องรำไร เมื่อได้พื้นที่แล้ว ให้ผู้เลี้ยงทำการปรับพื้นที่ โดยการนำทรายหยาบถมหนาประมาณ 3 นิ้ว
- เมื่อเราเตรียมพื้นที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้เรานำยางรถที่เราเตรียมไว้ จำนวน 3 เส้น วางซ้อนกันขึ้นไปเป็นคอนโด แล้วใส่น้ำด้านในยางรถชั้นที่ 1 และ 2 และควรถ่ายน้ำทุก 3 วัน
- แล้วปล่อยกบที่เราได้เตรียมไว้ลงในยางรถ สำหรับอัตราการปล่อยกบนั้นจะขึ้นอยู่กับขนาดยางรถยนต์ (ต่อ 3 เส้น) ยางรถแทรกเตอร์ : 100 ตัว ยางรถสิบล้อ : 50 ตัว ยางรถหกล้อ : 30 ตัว ยางรถสี่ล้อ : 20 ตัว (จากที่กล่าวมาเป็นอัตราการปล่อยแบบคร่าวๆ เท่านั้น) แล้วนำตะแกรงมาปิดด้านบนคอนโด เพื่อป้องกันกบกระโดดออก
การให้อาหารกบ
สำหรับการให้อาหารกบนั้นเราควรให้วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น สำหรับอาหารที่ให้ ได้แก่ ปลาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ปูนา (ที่เด็ดขาเด็ดก้ามแล้ว) หอยโข่ง (ทุบเปลือกออกให้เฉพาะเนื้อใน) อาหารเม็ดสำเร็จรูปที่ใช้เลี้ยงปลาดุกโดยวางภาชนะใส่อาหารไว้ในถาดด้านล่างคอนโด
ระยะเวลาที่เลี้ยง
ใช้ระยะเวลาเลี้ยง 3-4 เดือน ก็ได้ขนาด 4-6 ตัว / กิโลกรัม
ข้อดีของการเลี้ยงกบคอนโด
- เลี้ยงในบริเวณบ้าน หรือมีพื้นที่จำกัดได้ดี และดีกว่าการเลี้ยงแบบใส่ขวดพลาสติกฃ
- ลงทุนต่ำ กว่าเลี้ยงในบ่อปูน
- ให้อาหารกบได้ง่ายและทั่วถึง ไม่เปลืองอาหาร
- ควบคุมโรคได้ง่าย ถ่ายน้ำสะดวก และใช้น้ำน้อยกว่า
- เหมาะกับผู้เริ่มทดลองเลี้ยงเพื่อศึกษา ไม่หวังผลกำไร
ข้อเสีย
- ยากต่อการสังเกตและดูแล หากเลี้ยงในปริมาณมากๆ
- ไม่เหมาะกับการเลี้ยงจริงจังเชิงพาณิชย์ ที่ต้องมีปริมาณผลผลิตต่อเดือนสูง
ข้อควรระวัง
- การเลี้ยงกบคอนโด จะต้องวางคอนโดในบริเวณที่มีแสงรำไร (อย่าวางตากแดดเพราะยางจะร้อน ทำให้น้ำร้อนไปด้วย) อายุของกบที่นำมาเลี้ยงถ้ามีอายุเกิน 90 วัน ไปแล้วจะพบปัญหาเรื่องกบเครียด
- การผสมพันธุ์แต่ละรุ่นควรเปลี่ยน พ่อพันธุ์ตลอดเพื่อป้องกันปัญหาเลือดชิด
- การปล่อยกบเพื่อเลี้ยง จำเป็นต้องคอยคัดขนาดของกบให้มีขนาดเท่า ๆ กัน เนื่องจากกบขนาดใหญ่จะรังแกและกัดกินกบเล็ก
- แนะนำให้ปล่อยในช่วงเช้าตรู่ หรือช่วงเย็น เนื่องจากอากาศไม่ร้อนเกินไป และปริมาณของอาหารที่ให้ เกษตรกรควรสังเกตการกินของกบ โดยปกติกบจะกินอาหารหมดภายใน 20 นาที หากนานกว่านั้นแปลว่าให้อาหารในปริมาณที่มากเกินความต้องการ และให้ในภาชนะที่จัดเตรียมไว้ในกระชัง ไม่โยนให้ทั่วกระชัง เนื่องจากจะทำให้กระชังสกปรก และควรทำความสะอาดภาชนะทุกครั้ง
- ใช้ไฟส่องล่อแมลง เพื่อให้เป็นอาหารเสริมของกบ หมั่นสังเกตสภาพของกบที่เลี้ยง หากกบมีแผลท้องบวม เบื่ออาหาร ควรจับแยกออกมาเลี้ยงเพื่อสังเกตอาการ และรักษาตามอาการ
ต้นทุน
- อาหารปลาดุกเล็ก 1 กิโลกรัม 100 บาท
- อาหารปลาดุกใหญ่ 1 กระสอบ 390 บาท
- รวม 490 บาท
จับกบขายได้ประมาณ 25 กิโลกรัม ๆ ละ 50 บาท เป็นเงิน 1,250 บาท
หักค่าใช้จ่ายแล้วจะได้กำไร 750 บาท/1 ชุด (3 ล้อ)
ขอบคุณที่มา : www.withikaset.com
บทความอื่นๆที่เกี่ยวข้อง