อาหาร » ต้มยำพุงปลาช่อน อร่อยแซ่บ แบบง่ายๆไม่คาว(แบบบ้านๆ)

ต้มยำพุงปลาช่อน อร่อยแซ่บ แบบง่ายๆไม่คาว(แบบบ้านๆ)

14 มกราคม 2023
831   0

ต้มยำพุงปลาช่อน อร่อยแซ่บ แบบง่ายๆไม่คาว(แบบบ้านๆ)

ต้มยำพุงปลาช่อน

ต้มยำพุงปลาช่อน


สวัสดีค่ะวันนี้เรามีเมนูต้มยำมาฝากกันค่ะ เมนูที่ว่าคือ เมนูต้มยำพุงปลาช่อน ที่ทำแบบบ้านๆ กินตอนร้อนๆ โล่งคอ โล่งจมูก ดีไม่น้อยทีเดียว ด้วยรสชาติที่เปรี้ยว เผ็ด ร้อน เพราะเราใส่เครื่องสมุนไพรไทย แน่นๆเยอะจุใจกันเลยทีเดียว ซึ่งเมนูต้มยำพุงปลาช่อนนั้น หาทานไม่ยาก แต่ราคาอาจจะสูงไปนิด เพราะพุงปลาช่อน 1 ตัว มีแค่ 1 ชิ้น เท่านั้น จึงไม่แปลงใจที่พุงปลาช่อน จะมีราคาที่ค่อยแพง แต่ถ้านานๆ ทานที ก็คงไม่เป็นไร

เรามาลงมือเตรียมวัตถุดิบ ต้มยำพุงปลาช่อน และลงมือทำกันเลยค่ะ

วัตถุดิบ

  • หัวปลาช่อน 1 หัว
  • พุงปลาช่อน 500 กรัม
  • เกลือ สำหรับล้างพุงปลาช่อน
  • น้ำสะอาด 700 ml.
  • ข่า 4 แว่น
  • ตะไคร้ 2 ต้น
  • ใบมะกรูด 5 ใบ
  • หัวหอมแดง 5 – 6 หัว
  • พริกขี้หนูบุบ 10 เม็ด
  • พริกขี้หนูแห้งทอด 5 เม็ด
  • ใบผักชีฝรั่ง 2 ต้น
  • มะเขือเทศ 2 ลูก

เครื่องปรุงรส

  • น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 5 ช้อนโต๊ะ
  • ผงปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนการทำ ต้มยำพุงปลาช่อน

  • ขั้นตอนแรก นำพุงปลาช่อน และหัวปลาช่อน มาล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นให้นำเกลือใส่ลงไปในพุงปลาช่อน และหัวปลาช่อน คลุกเกลือให้ทั่วพุงปลาช่อนและหัวปลาช่อน ทิ้งไว้ 2 – 3 นาที แล้วล้างน้ำให้สะอาด เสร็จแล้วพักไว้ ให้สะเด็ดน้ำ
  • ล้าง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ใบผักชีฝรั่ง มะเขือเทศ หอมหัวแดง พริกขี้หนู ให้สะอาด แล้วพักไว้
  • เสร็จแล้วนำข่า กับ ตะไคร้ มาหั่น เฉียง
  • แล้วฉีกใบมะกรูด รอ ทุบหอมหัวแดง และ หั่นมะเขือเทศ 1 ลูกแบ่ง เป็น 4ชิ้น รอเตรียมไว้
  • เสร็จแล้ว นำหม้อตั้งไฟกลางๆ ใส่น้ำสะอาดลงไปในหม้อ แล้วให้รอจนน้ำเริ่มเดือด จึงใส่ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หัวหอมแดงลงไป ทิ้งเดือดประมาณ 5 นาที
  • เสร็จแล้ว นำพุงปลาช่อน และ หัวปลาช่อน ใส่ลงไป ขั้นตอนนี้ห้ามคน เพราะจะทำให้ต้มยำพุงปลาช่อน ของเราคาวได้ ต้มให้พุงปลาช่อนและหัวปลาช่อนสุก
  • ขณะรอพุงปลาช่อนและหัวปลาช่อนสุก ให้คอยตักฟองออกให้หมด เพื่อลดกลิ่นคาวของปลา
  • เมื่อปลาสุกแล้วให้ปรุงรส ด้วยน้ำปลา ผงปรุงรส ชิมรสชาติ
  • จากนั้นให้ใส่ พริกขี้หนูบุบ พริกแห้งทอด มะเขือเทศ และใบผักชีฝรั่งหั่นฝอย ลงไป
  • ปิดไฟ แล้วใส่น้ำมะนาวลงไป ชิมรสชาติตามชอบ ตักใส่ถ้วย พร้อมรับประทาน

ที่มา : Sarakaset.com

เรียบเรียง : นงนุช